เพิ่มภูมิต้านทานด้วยการอบซาวน่า
การอบซาวน่า เป็นวิธีเพิ่มภูมิต้านทานอย่างสำคัญ ซาวน่า เป็นศิลปะการอาบน้ำของชาวฟินแลนด์ และประเทศนี้ได้มีวิจัยจำนวนมากว่าด้วยผลดีของการอบซาวน่าที่มีต่อสุขภาพ มิเฮล แคนคาส นักวิจัยชาวฟินแลนด์กล่าวว่า "การอบซาวน่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 6 เดือนต่อเนื่องกัน พบว่า ลดอัตราการเป็นหวัดในอาสาสมัครได้ถึง 30%
เหตุผลก็คือ เมื่ออบร้อน เป็นการหลอกร่างกายเหมือนกับกำลังเป็นไข้อยู่ เป็นเหตุให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวมากขึ้น แล้วเส้นเลือดที่ขยายตัวระหว่างอบร้อนจะทำให้เม็ดเลือดขาวที่สร้างขึ้นไปกองอยู่ตามแขนขา เมื่ออบร้อนในซาวน่า 3 นาทีแล้ว ก็ให้โดดลงบ่อน้ำเย็น 2 นาที
การลงบ่อเย็น เส้นเลือดจะหดตัว ทำให้เม็ดเลือดขาวถูกส่งเข้าสู่ร่างกายส่วนกลาง ไปตามอวัยวะต่างๆ จึงเท่ากับส่งภูมิต้านทานไปกำจัดสารเสีย เชื้อโรค ไวรัส หรือกระทั่งเซลล์มะเร็งตามส่วนต่างๆของร่างกายได้
กล่าวกันว่าชีวิตคนสมัยใหม่ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมาก เครื่องปรับอากาศได้รับการติดตั้งไปทั่ว บางคนใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง คือ นอนห้องแอร์ นั่งรถแอร์ ทำงานห้องแอร์ นั่งรถแอร์กลับบ้าน และนอนห้องแอร์อีก สภาพเช่นนี้ทำให้คนสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยร่างกายขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัว หัวใจ ปอด ตับ ม้าม ภูมิต้านทาน ประสาทอัตโนมัติจะทำงานอย่างเฉื่อยชา ด้วยเหตุนี้ เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเกิดไปกระทบความร้อนหรือความเย็นจากภายนอก เช่น ถูกแดดก็จะป่วยเป็นหวัดแดด ถูกฝนก็เป็นหวัดฝน นั่นเพราะชีวิตที่สะดวกสบายเกินไป
แม้แต่เด็กอนุบาลก็มักเรียนหนังสือในห้องแอร์ เป็นค่านิยมของพ่อแม่ที่นิยมให้ลูกเรียนในห้องแอร์หวังอำนวยความสะดวกให้ลูก แต่เมื่อเด็กเหล่านี้ไปกระทบความร้อนเย็นเข้าหน่อยก็จะป่วยเป็นหวัดง่าย
ตรงกันข้ามกับเด็กเลี้ยงควายบ้านนอกซึ่งตากแดดตากฝน เลี้ยงควายไถนา กลับไม่ค่อยเจ็บป่วย
การอบซาวน่าร้อนสลับเย็นจึงเป็นเสมือนการเลียนแบบให้ร่างกายสัมผัสกับธรรมชาติ มีร้อนมีเย็น ช่วยให้ระบบอวัยวะภายในรวมทั้งภูมิต้านทานแข็งแรง
ขั้นตอนการอบซาวน่า ที่ถูกต้องประกอบด้วย:
การออกเหงื่อ โดยเข้าไปอยู่ในห้องซาวน่า ซึ่งมีอุณหภูมิ 70-80 องศาเซลเซียส ไม่ต้องกังวลว่าอุณหภูมิขนาดนั้นร่างกายจะทนไม่ได้ ตราบใดที่เราไม่ทำให้ห้องซาวน่ามีความชื้อมากเกินไป นั่นคือ เมื่อเปิดห้องซาวน่าในระยะ 15 นาที แรก ให้พรมน้ำลงก้อนหินร้อนเพียง 1-2 ครั้ง ความชื้นเพียงเล็กน้อยจะอบอวลในห้องซึ่งถือว่าเพียงพอ การพรมน้ำบ่อยเกินไปจะเพิ่มความชื้นมาก ทำให้ละอองน้ำนำพาความร้อนกระทบผิวกายผู้อบ เป็นเหตุให้อึดอัดทนอบไม่ได้นาน และเหงื่อไม่ออกอีกด้วย
การถูกกระตุ้นผิวหนัง ซาวน่าขนานแท้จะใช้กิ่งเบิร์ซฟาดตามผิวกายให้ทั่ว เพื่อกระตุ้นต่อมเหงื่อ ต่อมไขมันและผิวหนังให้ขจัดพิษ และเพิ่มการไหลเวียนเลือด ถ้าไม่มีกิ่งเบิร์ซอาจใช้แปรงธรรมชาติหรือรังบวบที่สะอาดถูผิวหนัง
การทำตัวให้เย็น เมื่ออบซาวน่านาน 3-5 นาที โดยเฉพาะในผู้หัดใหม่แล้ว ให้ออกจากห้องแล้วใช้น้ำเย็นรดตัว หรือ โดดลงบ่อน้ำเย็น ซึ่งอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ให้ผู้อบลงไปชุบตัว ใช้เวลา 2 นาที หรือ เท่าที่ทนได้
พักผ่อนเก็บรับความสดชื่น เมื่อทำหมุนเวียนกันเช่นนี้ สามรอบ ให้ผ่อนคลายร่างกายจิตใจด้วยการนั่งหรือนอนพักอย่างสงบ
" ส่วนหนึ่งจาก บทความในมติชน ฉบับที่ 1499 วันที่ 8 พ.ค. 52 นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล"
หมายเหตุ: การอบซาวน่า ในเมืองไทยมีหลายคำสะกด ได้แก่ ตู้อบซาวน่า ตู้ซาวน่า ห้องอบซาวน่า ห้องซาวน่า ห้องเซาว์น่า ห้องอบเซาว์น่า ตู้เซาว์น่า ตู้อบเซาว์น่า เตาซาวน่า เตาเซาว์น่า ไม่ว่าจะสะกดเช่นไร ต่างให้ความหมายเดียวกัน