พลังความร้อนจาก FAR INFRARED คืออะไร มีข้อดีอย่างไร
เป็นรูปแบบของพลังความร้อนจากแสงอาทิตย์ ที่ไม่ต้องอาศัยอากาศเป็นสื่อกลางในการนำความร้อน เป็นพลังงานที่อยู่ในย่านที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เรารู้สึกและรับรู้ได้จากความอบอุ่นที่ส่องมาของดวงอาทิตย์ โดยปกติร่างกายรอบตัวเรา ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการใช้ความร้อนบนฝ่ามือ เพื่อการบำบัดช่วยรักษาโรคของคนยุคโบราณที่ไม่ต้องใช้ยา หรือการผ่าตัด ระบบความร้อน KOMEDAนั้นเป็นระบบความร้อนเดียวกันที่ส่งมาจากแสงดวงอาทิตย์ ที่จะทำให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นเป็นพลังงานความร้อน ( FIR ) ที่อยู่ในช่วงความถี่ยาว 8.0-15.0 ไมครอน ซึ่งเป็นช่วงพลังงานความร้อนที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ Suana คือพลังงานความร้อนที่มีคลื่นสั้นกว่า ให้ความร้อนพื้นผิวด้วยระบบที่ให้ความร้อนจาก อากาศ ( Hotair/Steam )
ช่วงคลื่นแสงที่เป็นช่วงคลื่นสั้นนั้น ( สูง ) ตามนุษย์รับรู้ได้ ประกอบด้วยแสงสีม่วงไล่ลงมาจนถึงแสงสีแดง
ช่วงรังสีแกมม่า ( gramma ray ) และช่วงรังสีแอกซ์ ( X- ray : 0.1 nm < 1 < 300 nm ) เป็นช่วงที่มีพลังงานสูง แผ่รังสีจากปฎิกิริยานิวเคลียร์ หรือจากกัมมันตรังสี
ช่วงอัลตราไวโอเลตบน เป็นช่วงที่มีพลังงานสูง เป็นอันตรายต่อเซลล์สิ่งมีชีวิต
ช่วงอินฟราเรด เป็นช่วงคลื่นที่มีพลังงานต่ำ ตามนุษย์มองไม่เห็น แบ่งแยกออกเป็นอินฟราเรดคลื่นความร้อนดังนี้
Near Infrared ( NIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.7 ถึง 1.5 Miron
Middle Infrared ( MIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ใช่วงระหว่าง 1.5 ถึง 5.6 Micron
Far Infrared ( FIR ) ความยาวคลื่นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 5.6 ถึง 1000 Micron
Sauna และ ห้องอบไอน้ำ เกิดจากวิวัฒนาการมานานนับพันปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าช่วยในการบำบัด แต่ถ้าไม่ได้ปรับระบบความร้อนที่แผ่ออกมาทั้งคลื่นแสงสั้นและยาวให้เหมาะสม ก็อาจจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายมนุษย์ จึงให้ได้เพียงความร้อนที่พื้นผิวเท่านั้น
ฟาร์อินฟราเรด ให้ความร้อนที่สามารถเข้าสู่กล้ามเนื้อของรางกายโดยตรงสู่เนื้อเยื่อและเซลล์ได้ลึกถึง 1.5 นิ้ว และร่างกายสามารถรับได้ 93 % ของคลื่นความร้อนทั้งหมดที่ส่งมายังผิวหนัง ซึ่งประโยชน์และคุณสมบัตินี้แตกต่างจากตู้อบความร้อนทั่วไป