ความเป็นมาของการอาบน้ำแบบฟินนิช หรือเซาน่า
การอาบเหงื่อแบบฟินนิชเป็นวัฒนธรรมที่เริ่มจากผู้คนในแถบถิ่นป่าสนซึ่งทำงานหนัก ซึ่งความต้องการของร่างกายไม่เพียงต้องการอาบน้ำชำระล้างเหงื่อไคล แต่กล้ามเนื้อทั้งแขนและขาของพวกเขา ต้องการขับล้างสารเสียออกไป และสร้างสรรค์พลังใหม่เพื่อการทำงานอันหนักหน่วงในวันต่อไป พวกเขาพบว่าการชโลมร่างกายให้เปียกน้ำและนั่งให้ออกเหงื่ออยู่ริมกองไฟในกลางป่าช่วยพวกเขาได้มากในกรณีนี้ สรุปรวมความแล้ว 2 ปัจจัยที่ก่อกำเนิดฟินนิชบาทคือ การทำงานหนักและป่าไม้อันหนาทึบในดินแดนดังกล่าว
การเซาน่าของชาวฟินถือเป็นวัฒนธรรมประจำชาติอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขาเท่าๆกับการกินอาหารและการนอนหลับพักผ่อน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1937 มีแพทย์และนักจิตวิทยาชาวฟินร่วมกันก่อตั้ง Suomalaisen Saunan Ystavat หรือสมาคมเพื่อนนักอบเซาน่า มีวัตถุประสงค์ในการค้นคว้าหลักและวิธีการเซาน่าที่ถูกต้อง ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพอนามัยแล้วเผยแพร่ความรู้ให้แก่คนทั่วโลก สมาคมนี้ได้ร่วมกับมูลนิธิพิพิธภัณฑ์การกีฬาแห่งชาติของฟินแลนด์รวบรวมข้อมูลไว้จำนวนมากเพื่อการนี้ ปัจจุบันยังมีสมาคมเซาน่าแห่งฟินแลนด์ (The Finnish Sauna Society) และเวบไซต์เวอชวลฟินแลนด์ (The Virtual Finland) อีก 2 หน่วยงานที่รวบรวมเผยแพร่วิชาการว่าด้วยการเซาน่าที่เป็นเอกลักษณ์ของฟินแลนด์เผยแพร่ไปทั่วโลกด้วย
นอกจากผลต่อร่างกายในแง่ของการขับล้างสารพิษ และเสริมเติมพลังแก่กล้ามเนื้อด้วยเลือดที่หมุนเวียนได้ดีขึ้นแล้ว เซาน่ายังมีความหมายทางจิตใจขั้นสูงด้วย ชาวฟินเชื่อว่าไฟเป็นสิ่งที่ประทานมาจากสวรรค์ จึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เตาไฟและกองหินบนเตาจึงมีความหมายอันสูงส่ง ไฟที่จุดขึ้นพร้อมกับคาถาศักดิ์สิทธิ์บางบท ก็จะขับไล่โรคภัยไข้เจ็บและสิ่งชั่วร้ายให้มลายหายสูญไป ด้วยเหตุนี้ชาวฟินมักจะพูดเสมอว่า “เมื่ออยู่ในเซาน่า จงประพฤติตนเสมือนกำลังเข้าโบสถ์” ห้ามทำเสียงเอะอะ ผิวปากหรือพูดคุยกันเรื่องไร้สาระเพราะเซาน่าเป็นสถานที่ที่ใช้ขจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งมวล
และด้วยเหตุฉะนี้เซาน่าจึงไม่ได้กลายเป็นสถานเริงรมย์เหมือนอย่างที่โรมันบาธได้ถูกเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ไปในยุโรปกลาง โดยไม่มีเรื่องทางเพศมาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
โดยสรุปแล้วเซาน่าสำหรับชาวฟินไม่แต่เพียงเป็นที่ๆไปทำความสะอาดร่างกาย แต่เขาใช้เซาน่าเพื่อการพักผ่อน คลายเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วย ในชนบทถ้าชาวฟินจะหาพื้นที่สร้างบ้านที่ชายป่า เขามักเลือกสถานที่ริมทะเลสาปเพื่อสร้างเซาน่าไว้เสียก่อน ในระหว่างที่เขากำลังเหนื่อยเหน็ดกับการสร้างบ้านหลังจริง เขาก็จะได้พักผ่อนระหว่างวันงานอันหนักหน่วงด้วยการอบเซาน่าและกระโดดลงแช่น้ำทะเลสาปเยือกแข็ง เมื่อเขาสร้างบ้านเสร็จแล้วมีอาคันตุกะมาเยือน ชาวฟินผู้รักการเซาน่ามักจะเชื้อเชิญอาคันตุกะไปร่วมเซาน่ากับตน ดุจเดียวกับการเชิญแขกไปกินเลี้ยง
เซาน่าเริ่มแรกที่สุดเรียกกันว่า เซาน่ารมควัน (Smoke Sauna) เป็นเซาน่าแบบง่ายๆที่เป็นห้องโถงไม้ มีก้อนหินบนเตาไฟเมื่อติดเตาแล้วควันจะอบอวลอยู่ในห้อง นักมนุษยวิทยาเชื่อว่าเซาน่าแบบนี้น่าจะเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ยุ้งสำหรับตากธัญญาหาร โรงนาสำหรับสัตว์เลี้ยง และห้องอาบเหงื่อไปด้วยในตัว พูดง่ายๆว่าเป็นบ้านของชาวฟิน นั่นเอง จนมีคำกล่าวกันว่า ห้องเซาน่าของชาวฟินเป็นได้ทั้งห้องแต่งงาน คลอดลูก จนกระทั่งตายจากโลกนี้ไป ก็ล้วนเป็นกิจกรรมในห้องเซาน่า การรักษาโรคก็ทำในเซาน่าด้วย ชาวฟินจะพูดว่า “ถ้าเหล้ายา น้ำดิน และเซาน่ายังรักษาโรคของผู้ป่วยรายนั้นไม่ได้ ก็ไม่มีการรักษาอื่นใดแล้ว”
บทความจาก "นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล"
พูลแอนด์ซาวน่า เซ็นเตอร์ ขอขอบคุณบทความสาระดีดีให้ความรู้และเป็นประโยชน์ มา ณ โอกาสนี้ค่ะ